top of page
  • K Yaiying

ชีวิตเวทเวท ตอนที่ 5 แขกตี้


บทความชีวิต เวทเวท ได้ก้าวเข้ามาในตอนที่ 5 แล้ว ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆที่ให้ความกรุณาและตอบรับกับงานเขียนของ วุ้ดดี้ อย่างล้นหลามจนตอนนี้ตอบจดหมายเเฟนเเทบไม่ทันนะคะ (อันนี้กูมะโน)

ขอย้ำกับท่านผู้อ่าวว่าบทความต่างๆไม่ได้เจตนาก่อให้เกิดความเศร้าโศกเสียใจใดๆ แค่อยากเรียกเสียงหัวเรากันก็เท่านั้น ส่วนเเขกที่วุ้ดดี้เเอบมาเม้า ก็ไม่ได้ประสงค์ออกนานใครทั้งสิ้น นะจ้ะ ส่วนแขกในที่นี้อาจหมายถึงแขกลูกค้าทั่วไปหรือแขกอินตะระเดีย ก็เป็นได้ ให้ท่านผู้อ่านคิดเอานะคะ

ดีใจจังเล้ยยย ร้านไม่ยุ่ง นั่งพับผ้า ทำไซด์จ้อบเบาๆ เล่นโทรศัพท์ดีกว่า ฟินจุง ฟินจุง เเบ็ตโทรศัพท์เกือบหมดละ ที่ชาทต์เเบทอยู่ไหนเน้อ เดินหาไม่ทันจะได้เสียบเเบตดีก็มีปาร์ตี้แขกกรูกันเข้าในร้าน ขอไม่เอ่ยนาม มีพี่เเขกมาทั้งครอบครัว ลูกเล็กเด็กแดงพ่อแม่ปู่ยาตายาย คืบคลานกันเข้ามาในร้าน โฮสสาวสวยต้อนรับพาไปนั่งจัดแจงเอาเมนูไปวาง

ถึงโต้ะ ท่านแขกทั้งหลายจะไม่นั่งก่อน จะยืนกันคุย ไม่เข้าที่นั่งให้เรียบร้อยเปรียบเหมือนร้านนี้เป็นบ้านของเธอ ที่สำคัญเสียงดังมาก เด็กเริ่มวิ่งเล่น เคาะตะเกียบ วุ้ดดี้เริ่มขึ้นเพราะยังไม่ได้เล่นโทรศัพท์ดี รอให้ทุกท่านนั่งลง สงบสติอารมณ์ เข้าไปถามน้ำ

"รับน้ำอะไรดีค่ะ คุณแขก"

ก็ได้ออเดอร์นี้น้ำดังต่อไปนี้

ขอน้ำไม่เอาน้ำเเข็ง ขอน้ำน้ำเเข็งน้อยๆ ขอน้ำที่มีอุณหภูมิเท่ากับห้อง ( room tempurature) ขอน้ำไม่เอาน้ำเเข็งใส่มะนาวเหลือง ขอน้ำเอาน้ำเเข็งนะ ขอน้ำไม่ใส่มะนาวเหลืองนะ ของเด็กเอาเเก้วพลาสติกมาด้วย ไม่ใส่น้ำเเข็ง อ่อมีขอน้ำอุ่น

แค่น้ำก็เเอบยากละ เดี๋ยวนะคะ พวกมึงอย่าชวนคุย วุ้ดดี้ชักลืมละว่ากินน้ำอะไรบ้าง สรุปเอาน้ำเเข็งกี่คนวะ เดินไปหยิบน้ำหลังครัว ชักงง หยิบเอากระดาษที่จดมาดูว่ากูหยิบถูกไหม เอาวะเก่งอย่างเราไม่มีพลาดคะ

แต่พลาดท่าเสียทีตั้งแต่เริ่มมีคนดันเปลี่ยนใจไม่กินน้ำเเข็งต้องเดินมาหยิบน้ำใหม่คะ อาการของวุ้ดดี้ชักตึงๆ

ยกแรกผ่าน

คะ ด่านน้ำผ่านไปได้ด้วยดี เราก็รอซักพักให้เขาดูเมนูให้พร้อมก่อน หลังจากพวกท่านพร้อมเเล้ว ยกมือขวักมือเรียก วุ้ดดี้ก็ยิ้มสวยเดินเข้าไปอย่างมั่น พอถึงโต้ะก็มีคำถามค่ะว่าคืออะไรคะ ทำไมพวกมึงคุยกันเสียงดังไม่สนใจกูเลย ลูกวิ่งๆรอบๆโต้ะ ส่วนอีกคนเริ่มทุบโต้ะ เคาะตะเกียบ ส่วนอีพ่อกับเพื่อนคุยๆๆๆๆเสียงดังกว่ากูอีก กูก็เเหกปากให้ดังไปกว่าอีกเพราะอีเเม่คนสั่งไม่ได้ยิน

อีแม่ เป็นคนสั่ง มองเมนู ไม่มองหน้า กำชับว่าฝั่งปู่ย่าตาชวดเป็นมังสวิรัต ต้องแน่ใจนะคะว่าฝั่งปู่ย่าเนี่ย ต้องไม่มีเนื้อสัตว์เลย น้ำปลาไม่ได้ น้ำมันหอยไม่ได้ เนยนมไม่ได้ ส่ิงที่จะกินได้คือผักอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งตอนไปรับออเดอร์ก็ไม่รู้จะแนะนำท่านอย่างไรเพราะกูชอบกินเนื้อมาก ยิ่งเนื้อเปื่อยเนื้อสัน เนื้อติดกระดูก ลิ้นวัวดิชั้นฟาดเรียบ เลยอธิบายว่านู่นนี่กินได้นะคะ นู่นนี้อย่ากินค่ะมีส่วนผสมของซากสัตว์ ส่วนคุณแขกก็ไม่รู้จะกินอะไร เลยคุยกันเรื่องโรงเรียนลูกเสียงดังไม่ฟังกู อ่าวคือแต่ละคนช่วยฟังกุด้วยเพราะทุกท่านคุยกันไม่สนใจกูเลยเหมือนยืนเป็นหัวตอ อ่าวกูพูดคนเดียวงิ คะ ถ้าไม่พร้อมวันหลังอย่าเรียก วุ้ดดี้เลยขอเดินออกมาเงียบๆค่ะ แต่ไม่รอดคะ เพราะได้ยินเสียงเรียกจากโต้ะนั้นได้ว่าอย่าเพิ่งไปนะคะ จะสั่งอาหาร พร้อมเเล้ว

คะอย่านะ ไม่ได้เล่นโทรศัพท์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วอย่านะ อย่ายั่วยุ

คุณแม่เเขกขอร้องให้ยืนอยู่ก่อนเพราะจะสั่งอาหารจริงๆละ แต่ท้ายสุดและสุดท้าย ก็ยังไม่ได้คะ แต่มีคำถามเด็ดๆ ว่า เต้าหู้มีเนื้อสัตว์ไหม เพราะแม่ฉันกินไม่ได้ เอ่อกูก็มีคำถามไหนมึงบอกพร้อมแล้ว กูเลยเข้ามา เข้ามามึงก็ไม่สนใจกูเล้ยยยย พอกูจะไปก็รั้งกูอีก ค่ะ ยิ้มสู้ ตอบไปว่าเต้าหู้เกือบทุกประเทศทั่วโลกไม่ค่อยเนื้อสัตว์กันนะคะ บางทีคุณช่วยกินเนื้อสัตว์บ้างก็ดีนะ จะได้เก่งๆ

ยกที่สองผ่านไปรอให้พร้อมจริง ตรงจุดนั้นอาจจะไปนั่งพับผ้า ไปกินกาเเฟ ขนมกรอบๆหลังร้าน เเอบเช็คโทรศัพท์เเป้บนึง เอะ แบตเริ่มเป็นสีเเดง ที่ชาทเเบทหาไม่เจอ อ่าวและเดินไปที่โต้ะอีกรอบ แขกยกมือเรียก

ยกที่สามเริ่ม ยกนี้ต้องตั้งสติดีๆ เพราะไม่งั้นจะพลาดโดนด่าได้รอบด้าน ทั้งในครัว ทั้งลูกค้า ทั้งผู้จัดการร้าน

เสร็จเเขกพร้อมสั่ง

เธอฉันขอ เปาเปี้ย หรือ Egglolls vegetarian หน่อย มีหมูไหม ถ้ามีไม่กิน เอาให้แน่นะ ไม่มีเนื้อแน่นะ เธอ ไม่มีเนื้อสัตว์แน่ะนะ ย้ำไม่มีใช่ไหม

เออออออออไม่มี(คะ)

สั่งกระเพราะผักรวม ไม่ใส่น้ำปลา ไม่ใส่น้ำมันหอยไม่เอาเนื้ออะไรทั้งน้ัน ใส่แต่เต้าหู้ เธอแน่ใจนะเต้าหู้ไม่มีเนื้อจริงๆ ไม่เอาเนื้อสัตว์นะ ย้ำไม่เอาเนื้อสัตว์เลย ขอเผ็ดๆ

เธอ ฉันขอสั่ง แกงพะเเนง เต้าหู้ ไม่ใส่น้ำปลา นะ เอาเผ็ดๆ ขอเผ็ดมากๆ เอา ไทยสะไปซี่ เผ็ดเเบบไทยน่ะ เธอก็น่าจะรู้ ไม่เอาน้ำปลานะ ไม่เอาเนื้อสัตว์ใดๆ เผ็ดๆ เลยนะ ไม่เอาเนื้อสัตว์นะ

เธอฉันสั่งผัดผักรวมมิตร ไม่เอาเห็ด เธอจดยังไม่เอาเห็ดนะ ขอเผ็ดๆ เอาขั้นที่ สิบเลย ขอเอาเเบบน้ำมันน้อยๆด้วยนะ ไม่เอาคะน้าขอเป็นแอสพารากัสแทน และที่สำคัญ ไม่เอาถั่วงอกนะ ลูกฉันไม่ชอบ

ขอสั่งข้าวผัดเต้าหู้ไม่ใส่ไข่ ไม่ใส่น้ำปลา ไม่ใส่น้ำมันหอย เผ็ดมากๆ

ขอสั่งซูชิโรวผัก ไม่เอาสะไปซี่เมโย ไม่เอาอะไรที่มีส่วนผสมของนม ขอศรีราชาฮอตซอตด้วย ไม่เอาผักทอดได้ไหม เป็นผักต้มแทน

โอ้ยยย ทำไมสมุดจดหน้ามันเต็ม ไม่เอานู่นเอานี่ ไม่ใส่โน่นใส่นี่ ไม่กินโน่นกินนี่ เอานี่เอานั่นใส่แทน ชั้นจะทำได้ไหม

ยกที่สามผ่านไปอย่างกังวล เพราะข้อยกเว้นเยอะเหลือเกิน

ยกที่สี่ตามมาค่ะ เร่งเสริฟ

พออาหารออกมา เมเนเจอร์คนสวยเบ็ตตี้ ก็ตะโกนเรียกให้พนักงานเสริฟเร่งเอาอาหารออกไปเสริฟเดี๋ยวนี้ ต้องตอนนี้ ต้องเดี๋ยวนี้ รอไม่ได้เลยนะคะ เหล่าสาวเสริฟก็ต้องรีบกรูเข้าไปเอาอาหารออกจากครัวไปเสริฟพี่เเขก ส่วนลูกๆของเขาก็ไม่นั่งให้เรียบร้อย วิ่งไปวนมาจนจะสะดุดกูหลายรอบ แถมเสียงดังเเข่งอีก

อาหารออกครบทุกจาน ก็ต้องมาถามว่าทุกอย่างโอเคไหม พร้อมคำถามจาก พี่แขกว่า ทุกจานไม่มีเนื้อสัตว์นะ

คะผักชิ้นไหนดูเหมือนหมูบ้าง บอกกูซิ ชักหงุดหงิดกับคำถามเดิมๆ ที่พี่เเขกคอยย้ำคิด ย้ำถามอยู่หลายรอบ หนำซ้ำต้องคอยวิ่งหยอดฮอตซอตหรือพริกให้ตลอด

ยกที่ห้า เด็ดอีกคือผัดผักที่พี่แขกสั่ง วุ้ดดี้ดันลืมกดไม่เอาเห็ดค่า ต้องวิ่งมาแยกเห็ดสดๆหลังร้าน ชะเง้อ รอกันเป็นยีราฟว่าทำไมผัดผักไม่ออกมาเสริฟซักที กูว่ากูไม่พลาดและนำ ตกม้าตายตรงมีเห็ด นึกแล้วอารมณ์เสียคะ

ยกที่หก เดินวนเวียน

ยกนี้จะเงียบหน่อยเพราะอาหารออกแล้ว ทุกคนไม่ว่างปาก เพราะเคี้ยวผักกันเอื้อง แต่ยกนี้ต้องเดินวนเวียนคอยเติมน้ำอุ่น เดิมน้ำมีน้ำเเข็ง น้ำไม่มีน้ำเเข็ง น้ำอุณหภูมิห้อง น้ำน้ำเเข็งน้อยๆ น้ำจากเทือกเขาหิมาลัย

คอยเติมฮอตซอส ถามไถ่ว่าอร่อยไหม ส่วนวุ้ดดี้ดูแล้ว ชักอยากกินสุกี้ พิเศษผัก ไม่เอาเนื้อสัตว์

ยกที่เจ็ด วางบิล

มาเกินห้าคนสามารถเอาทิปใส่ลงในบิลเป็นค่าบริการ 18% ได้เลย อิอิ รอดละ เคยนะคะ เสริฟพี่เเขกเเทปตายได้มา 5% วันหลังเก็บเหรียญไว้หยอดเครื่องซักผ้านะคะ รอบนี้รอดคะ เพราะพี่แขกจะไม่ค่อยถูกกับค่าบริการจ้า นี่ถ้ามาไม่ถึง 5 คนนะ เหนื่อยฟรีจ้า

ยกที่เเปด

ลูกค้าเเขกทานอิ่มจ่ายตัง เดินออกกลับบ้าน ร้านเริ่มกลับเข้าสภาวะเงียบเหงา เสียงเพลงของร้านดังขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

เสียงเคาะตะเกียบดังๆ เสียงลูกเด็กเล็กเเดงวิ่งพล่านหายไปทำใจหาย

มาเช็คโทรศัพท์อีกที อ่าว เเบตหมดอีกละ จะเล่นเฟสบุคไงเนี่ย เดินหาที่ชาตเเบตต่อไป

นิทานอิสบเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เจอเเขกกับงู ให้หนีทั้งคู่ ทั้งงูทั้งแขกค่า

แวะมาส่งรอยยิ้ม เรื่องราวของชีวิตเวทเวท ในร้านอาหารอเมริกาจะมาเม้ากันเล่นอีกต่อนะคะ วันนี้สวัสดีค่าาาาา

TRAVEL
bottom of page