top of page
  • K Yaiying

ชีวิตเวท เวท ตอนที่ 9 อย่าถาม!!

ร้านอาหารหรูๆในชิคาโก้ ก็ต้องมีบริการเอารถลูกค้าไปจอดให้สวยๆโดยที่เราไม่ต้องวิ่งวนหาที่จอดให้เคือง และเปลืองจิตร เมืองใหญ่อย่างชิคาโก้ ที่จอดรถมีค่าเหมือนทองคำค่ะ ไม่ว่าจะเป็นที่จอดถูก จอดเเพง หรือจอดฟรี ก็ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ความสามารถในการวนหาที่จอด บ้างต้องวนไปวนมาจนครบสามรอบ เป็นชั่วโมงจนขึ้นบ้านได้ก็มี แต่เราลองคิดดูสิคะว่าหากเราจะมากินผัดไทยปลอมๆ ที่ร้านเอเชียนเก๋ๆ แค่ขับรถมาจอดหน้าร้านแล้วมีบริการ วาเล่ย์( Vallet) หรือเด็กเอารถเราไปจอดให้เรา แค่ทิ้งกุญแจกับเด็กวาเล เเค่นี้ก็เดินเข้าร้านสวยๆ และสั่งผัดไทยกินให้เอร็ดอร่อย ชีวิตมันจะดีขนาดไหน ไม่ต้องวนหาที่จอด

วันนี้ร้านกำลังยุ่ง วุ่นวาย ก็มีลูกค้าประจำเดินเข้ามาเป็นคุณป้า อ้วนๆ หน้าหงิกๆ เดินเข้ามานั่งรอสามี ลุงแก่ๆ ฝรั่งหัวหงอก ป้ากับลุงชอบมากินซูชิ ซาชิมิ ปลาดิบ และสาเกเป็นขวดๆ แกมากินตั้งแต่ร้านเปิดใหม่ๆ จนวันนี้แกก็ยังลากสังขารมากินอย่างน่ารัก แต่วันนี้ ร้านยุ่ง ชีวิตเวทเวทอย่างวุ้ดดี้ อีปอ (เพื่อนสาวสวยเสิร์ฟ ตัวเล็กเอวบางใหญ่ ไซต์เท่าช้าง) ก็วิ่งกันหน้าตาเหลือก ก็แอบสังเกตว่าป้าแกรอลุงอยู่นานมาก จนอีปอ เพื่อนสาวจอมนอยมากระซิบบอก

อีปอ "มึงๆ ตายเเน่ กูเห็นลุงลูกค้าประจำที่ชอบกินสาเกสามขวดรวดรอ Valet อยู่นานมาก แกหาที่จอดไม่ได้เลย เด็กวาเลย์ ไปไหนก็ไม่รู้ กูไปรับออเดอร์น้ำป้ามาละ นางบอกอาจจะลงไปหาที่จอดเอง"

วุ้ดดี้ : "หรอมึง วาเล่ย์ชอบหายตัวว่ะ ลูกค้าก็มาบ่นกับพวกเรา กรูจะรู้ไหม วิ่งเสิร์ฟอยู่ในร้านงกๆเนี่ย ไม่งั้นก็วนหาที่จอดเอาเองสิวะ"

ร้านของวุ้ดดี้เนี่ย มีบริการ Valet เป็นบริษัทเอกชน( outsourcing) ที่มาให้บริการนำรถของลูกค้าที่มากินที่ร้านไปจอดให้สวยๆ (เสียเงิน ชม แรก 15 $ สองชม 20$ สาม ชม ขึ้นไป 35$ ไม่รวมทิปนะจ้ะ )

แต่ร้านของเราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย ดังนั้น หากลูกค้าจะมาโวยวายว่า วาเลย์เราช้า หรือ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ลูกค้าไม่สามารถมาเอาเรื่องทางร้านเราได้เลยค่ะ มันเป็นการตกลงกันเองระหว่างคุณลูกค้า และบริษัทวาเลย์

หลังจากคุยกับอีปอเสร็จ วุ้ดดี้ก็ชะเง้อ ไปมองนอกหน้าต่าง เห็นลุงหน้าเป็นตูด ยืนรอ ป้อความหนาว อย่างทะลักทะเล รถก็ขวักไขว่ จอเเจ จนคิดว่า ถ้าเป็นกู กูคงไม่มากินละคะ บาย วุ้ดดี้ก็ต้องละสายตา วิ่งเสิร์ฟ มาราทอนต่อไป จนซักพักใหญ่ๆ ป้าอ้วนๆก็เดินทิ้งโต๊ะลงไปข้างล่างไปรอเด็กวาเล่ย์แทนลุง ส่วนลุงก็เดินขึ้นมารอแทนในร้านอีกเป็นพักใหญ่ หน้าเป็นตูด บอกเลย น่ากลัวมากตรงจุดนี้ เหมือนกำลังดูหนังผีตอนฉากที่ผีกำลังจะกระชากหัว อย่างไงอย่างงั้น

เดินวนๆกันไปพักหนึ่ง อีปอก็เข้าไปดูแลลุง ไม่ทันไรมันก็หน้าหงิกกลับมาหน้านอยๆ

อีปอ :มึงๆ อีวุ้ดดี้ ลุงจะกินหัวกู มันใช่ความผิดกูไหม ไม่มีที่จอด แล้วมาลงที่กูเนี่ย กูถามว่าสบายดีไหม ลุงหน้าหงิก แล้วบอกว่า Terrible ที่แปลว่าแย่มาก"

วุ้ดดี้: เออๆ หรอๆ มึง เดี๋ยวกูไปมองๆ ดูลุงให้ละกันเผื่อจะเย็นลง

ช่วงนั้น ป้าอ้วนก็ยังไม่ขึ้นมา คงรอวาเลย์หรือไม่ก็ไม่รอแล้ว ไปวนหาที่จอด อยู่นาน วุ้ดดี้มีจังหวะที่ไม่ค่อยยุ่ง แล้วเลยผลัดไปกับอีปอ เดินยิ้มสวยๆเข้าไปหาลุง ยิ้มเฟคๆ

วุ้ดดี้ : สวัสดีค่าคุณลุง สบายดีไหมค่ะ ไม่เจอนานเลย

ลุง: DON"T ASK !!!! (เเปลเป็นไทยตอนนั้น อารมณ์นั้น อาจถึงขั้น อย่าเสือกค่ะ คุณผู้อ่าน) หลังจากตะคอกใส่ ลุงก็มองไปที่หน้าต่าง ไม่สนใจใยดีวุ้ดดี้ค่ะ

วุ้ดดี้ช็อกไปซักพักกับคำตอบน้ัน และอึ้งค่ะ สมองคิดอยู่นานว่ากูควรเป็นตัวโกงหรือนางเอกดีกับเหตุการณ์นี้ ได้ ในเมื่อไม่ต้องการการบริการของดิฉัน ก็ Don't ask กูนะ ถ้าจะเอาไรก็เรียกอีปอละกัน กรูเลือกเป็นตัวโกงคะ

อีปอเดินมาหน้าตั้ง พร้อมถามวุ้ดดี้ว่าเข้าไปหาลุงบ้างยัง ลุงเป็นไงบ้าง วุ้ดดี้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เลยบอกเพื่อนสาวไปว่า

"มึงลุง ยืนยันกับกูแล้ว ว่า Dont ask !! กรูก็จะไม่เข้าไปนะคะโต๊ะลุง ถ้ามึงไม่เข้า ก็คงไม่มีใครเข้าค่ะ บอกลุงละกัน ถ้าจะเอาอะไร ก็ Don't ask กูคะ

ว่าเสร็จก็สะบัดบ็อบ เบาๆ วิ่งเสิร์ฟโต๊ะอื่นต่ออย่างเมามัน

อีปอหน้าซีด วิ่งไปบอก เบ็ตตี้ ผู้จัดการร่างยักษ์ ว่าลุงโต๊ะ 6 หาที่จอดรถไม่ได้ วีนเหล่าเวทเวทอย่างน่าเวทนาเลยค่ะ รู้ไหมอีเบ็ตตี้ตอบมาว่าอะไร ซึ่งแทนที่นางจะช่วยไปคุยให้ลูกค้าเบาๆลง แต่นางกลับตอกใส่หน้าอีปอว่า "ไอ ด้อน กิฟ อะ เเดม ฟัก" หรือเเปลว่า กูไม่สนใจเหี้.. อะไรทั้งนั้น ช่างเเม่มัน อีด.ก พร้อมกับทำตัวรนๆยุ่งๆ เเพ็คออเดอร์ทูโก เดลิเวอรี่ต่อไป อย่างวุ่นวาย

ซักพักป้าก็ขึ้นมาหาที่จอดรถได้แล้ว (เย่) อีปอเอาสาเกแก้วที่สอง ไปเสิร์ฟ อีเอมี่ เวทอีกคนก็เอาปลาดิบเป็นตันๆ ไปโยนให้ลุงกับป้ากินจนอารมณ์นางดีทั้งคู่ ส่วนวุ้ดดี้ ไม่มองค่ะ คิดว่าโต๊ะนี้คือคาบอนไดออกไซด์ ค่ะ เป็นพิษ เเอบมีกลิ่น แต่มองไม่เห็น

คะหลังจากความวุ่นวายจบไปทั้งลูกค้า ทั้งวาเลย์ ทั้งผู้จัดการ ทั้งเพื่อนร่วมงาน ร้านเริ่มไม่ยุ่ง อีเบ็ตตี้ก็ละจากหลังครัวเดินเข้าไปกอดคุยกับลุงกับป้าเรียกเสียงหัวเราะ ยิ้มเเย้ม คุยถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่นาน ใช่ซี่ตอนลุงกับป้าเดือดมึงไม่เข้าไปปล่อยให้อีวุ้ดดี้กับอีปอ รับหน้ากันจนแหกกันไปเป็นเสี่ยงๆ

ชีวิตเวทเวท นอกจากจะวิ่งเสิร์ฟถือจานเช็ดโต๊ะ เดินกันเป็นสิบๆ กิโลเเล้ว ยังต้องมาทนกับอารมณ์ของลูกค้าที่มีมากมายหลากหลายอีก แค่คิดก็เหนื่อยละคะ แล้ววันหลังจะมาเม้าชีวิต เวท เวท กันอีกนะคะ สำหรับวันนี้ ขอไปหาที่จอดรถเเป้บนึงค่ะ สวัสดีคะ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จงนั่งรถเมล์ รถไฟ หรือขี่มอไซต์รับมากินข้าวนอกบ้านค่ะ จะได้ไม่ต้องหาที่จอดให้เคือง

TRAVEL
bottom of page